จบเกมเสมอ ฟิออเรนตินาเสมอกัน1-1 ที่สนามกีฬา อาร์เตมีโอ ฟรานชี่ โดยมอนซ่า
จบเกมเสมอ ในการกลับมาเล่นในเซเรียอาหลังจากหยุดพักการแข่งขันฟุตบอลโลก ก่อนเริ่มเกม ฟิออเรนติน่า ยิงได้ 22% (4) จาก 18 ประตูในลีกในช่วง 15 นาทีแรกของการแข่งขัน ที่นี่พวกเขาพลาดการเพิ่มหมายเลขนั้นในเวลาเพียงสี่นาทีเมื่ออาร์เธอร์คาบราลให้ลาวิโอลาเป็นผู้นําด้วยการโจมตีที่น่าทึ่งยิงด้วยพิษผ่านมิเคเล่ดิเกรกอริโอจากด้านขวามือของเขตโทษ
เจ้าบ้านได้โขกไปชนเสาผ่าน คริสเตียโน่ บิรากี ไปแล้ว และมีโอกาสเพิ่มเติมจาก อเลสซานโดร บิอังโก้ ที่ลงเล่นนัดแรกในลีกสูงสุดของอิตาลี และ คาบราล ก็หวังที่จะขยายความได้เปรียบออกไป ในขณะเดียวกัน มอนซ่าก็แทบจะไม่อยู่ใน ครึ่งแรกและดูเหมือนจะไม่สามารถ จัดการกับคู่ต่อสู้ได้ อย่างไรก็ตาม อันเดรีย โคลปานี เสียโอกาสทองในการทําประตูตีเสมอ โดยยิงไกลจากระยะประชิด
ด้วยความพยายามดังกล่าวเป็นเครื่องเตือนใจฟิออเรนติน่าว่าพวกเขา ไม่สามารถผ่อนคลายได้แม้จะเป็นดาวรุ่งก็ตาม ในที่สุดพวกเขาก็ถูกทําให้ต้องจ่ายเงินสําหรับการไม่ขยายโอกาสในการขาย ฟิออเรนติน่าเริ่มต้นช่วงที่สองเหมือนกับ ที่พวกเขาจบเกมแรก แต่มอนซ่าซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเกมรุกสองครั้งในช่วงเวลานั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเกมเมื่อมันดําเนินไป https://ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ.com
เมื่อถึงเวลาที่สตาร์แมนคาร์ลอสออกุสโต วอลเลย์ลูกครอสของ แพทริคเซียร์เรีย เหนือดิเกรกอริโอ ด้วยความมั่นใจ
พวกเขาแสดงให้เห็นมากพอ ที่จะสมควร ได้รับอีควอไลเซอร์ เมื่อเกมเข้าใกล้จุดไคลแม็กซ์ มากขึ้นฝั่งเจ้าบ้าน ยังคงสูญเสีย ความเหนือกว่า และหากมีสิ่งใดฝ่ายตรงข้ามของพวกเข าดูมีแนวโน้ม ที่จะเก็บสามคะแนน ได้มากขึ้น พวกเขาน่าจะคัมแบ็กได้สําเร็จโดยเหลือเวลาอีก 15 นาที เมื่อปิเอโตร เทอร์รัคเซียโน่ ช่วยเซฟความพยายามของ ดานี่ โมต้า ก่อนตัวสํารอง อันเดรีย เปตาญ่า จะระเบิดลูกเด้งข้ามคานออกไป
ฟิออเรนติน่า ก็ตอบโต้ ด้วยโอกาสของตัวเอง แต่ ดิ เกรกอริโอ ก็เท่ากับหัวหอก ตัวสร้างสรรค์ของ ลูคัส มาร์ติเนซ ควาตรา ในท้ายที่สุดทั้งสองทีมไม่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งหมายความว่ามอนซ่า คว้าแต้มแรกของแคมเปญ หลังจากตามหลัง เบียงโกรอสซี ยังคงอยู่ในอันดับที่ 15 ขณะที่ฟิออเรนตินาอยู่ในอันดับที่ 10แมนออฟ เดอะแมตช์ : อาร์เธอร์ คาบราล (ฟิออเรนติน่า)